เช็กด่วน อายุสายไฟในบ้านหมดอายุหรือยัง?

แนะนำวิธีดุอายุการใช้งานของสายไฟภายในบ้าน อายุการใช้งานมีเท่าไหร่กันนะ ดูยังไงจะรู้ได้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว  เสียหายแบบไหนที่ต้องปลดออก เลิกใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งรู้ปัจจัยที่จะทำให้สายไฟภายในบ้านชำรุดเสียหาย จะมีอะไรบ้างมาเริ่มกันเลย

อายุการใช้งานสายไฟฟ้าในบ้าน กี่ปี?

อายุการใช้งานของสายไฟภายในบ้านนั้นมีอายุเฉลี่ยในการใช้งานอยู่ที่ 15-20 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุของสายไฟด้วย ถ้ามีฉนวนทำมาจาก PVC อาจจะมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่า ในทางกลับกันสายไฟที่มีการต่อแบบร้อยท่ออาจมีอายุการใช้งานถึง 30 ปีเลยทีเดียว อายุสายไฟภายในบ้านนั้นจะเสื่อมไวหรือช้าก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ด้วย เช่น การใช้งาน โดนแสงแดดหรือไม่ โดนฝนเป็นประจำไหม และมีการบำรุงรักษาอย่างไรด้วย

ปัจจัยที่ทำให้สายไฟเสื่อมสภาพก่อนกำหนด

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพทำให้อายุสายไฟภายในบ้านสั้นลงมีอยู่ 3 ปัจจัย คือ 

  1. แสงแดด เพราะรังสี UV เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ฉนวนไฟฟ้าหรือเปลือกพลาสติกหุ้มสายไฟกรอบแตกได้ไว ถ้าต้องติดตั้งนอกบ้านจึงควรใช้วิธีถนอมสายไฟ หรือเลือกใช้สายไฟแบบ Carbo Black ป้องกันรังสี UV
  2. ความร้อน พิกัดความร้อนของสายไฟแต่ละชนิดไม่เท่ากันดังนั้นควรเลือกสายไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน และบริเวณที่ติดตั้ง  เพราะถ้าหากมีความร้อนมากเกินไปจนเกิดความร้อนอาจจะทำให้ฉนวนเกิดการละลาย หรือลุกไหม้ได้ 
  3. ความชื้น ความชื้นเป็นปัจจัยที่ต้องระวังเช่นกัน เพราะความชื้นจากน้ำมักทำให้เกิดการกัดกร่อน หรือเกิดสนิมได้ ซึ่งวิธีการป้องกันความชื้นนั้นคือการติดตั้งสายไฟแบบร้อยท่อ ป้องกันความชื้นนั่นเอง

วิธีสังเกตอายุสายไฟในบ้านเบื้องต้น

เมื่อเจอปัจจัยที่ทำให้การเสื่อมสภาพของสายไฟเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องศึกษาอย่างต่อมาคือลักษณะของสายไฟภายในบ้านที่ชำรุด โดยที่แต่ละวิธีสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าได้ แต่บางวิธีก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเช่นกัน

ดูสภาพฉนวนสายไฟภายนอก

วิธีง่ายที่สุดสำหรับการสังเกตความเสียหายของอายุสายไฟภายในบ้าน ให้ตรวจดูที่ฉนวนสายไฟว่ายังอยู่ในสภาพที่ยังใช้งานได้อย่างเป็นปกติไหม ไม่มีการฉีกขาด ไม่มีรอยร้าว หรือแตกออก ไม่มีรอยไหม้ หรือร่องรอยของการชำรุดเสียหาย

ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายไฟ

ตรวจสอบโดยช่างที่เชี่ยวชาญในส่วนที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ตรวจสภาพปลั๊กไฟ เต้าเสียบ สวิตช์ไฟฟ้า หรือมิเตอร์ ที่ไม่มีรอยแตกร้าว ไม่หลวม แน่นสนิท สามารถใช้วิธีการตรวจสอบได้หลายอย่าง แต่หากไม่มั่นใจควรต้องใช้ความเชี่ยวชาญของช่างมากกว่า

ดูการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

สังเกตจากการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านว่าเกิดอาการติด ๆ ดับ ๆ หรือไม่ เปิดแล้วดับเองไหม หรือการทำงานของเครื่องใช้อื่น ๆ มีสะดุดหรือไม่ เพราะการทำงานที่ไม่เสถียรของไฟฟ้าอาจจะเกิดมาจากการชำรุดของอายุสายไฟภายในบ้านก็ได้

สังเกตว่าสายไฟร้อน หรือมีกลิ่นไหม้ไหม

เมื่อเกิดกรณีนี้แล้วมักจะมีเหตุอื่น ๆ ติดตามมา ดังนั้นหากจับดูแล้วสายไฟมีความร้อน หรือมองเห็นว่าสายไฟมีควันออกมา ควรต้องรีบหาทางแก้ไขให้ทันท่วงที และต้องระมัดระวังในการหยุดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างถูกต้องด้วย ทางที่ดีใช้ผ้าคลุมสายแล้วดึงออกอย่างปกติ อย่ากระชากแรง ๆ จะดีที่สุด

เปลี่ยนสายไฟใหม่ ต้องดูอะไรบ้าง?

ถ้าหากเกิดการชำรุดเสียหายของอายุสายไฟฟ้าภายในบ้านแล้ว คุณต้องเปลี่ยนอย่างไร แล้วจะต้องดูจากอะไรที่มั่นใจได้ว่าจะได้สายไฟที่มีมาตรฐาน เทคนิคการเลือกสายไฟที่ได้มาตรฐานนั้น คือ

  • เลือกสายไฟฟ้าภายในบ้านที่ตรงตามมาตรฐาน มอก.
  • เลือกสายไฟฟ้าที่ตรงกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสายไฟฟ้าในบ้าน หรือสายไฟฟ้าที่เดินสายอยู่นอกบ้าน ต้องต่อสายติดตั้งให้ถูกต้อง และป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้ด้วย
  • เดินสายไฟอย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นแบบลอย ติดผนัง ร้อยท่อ และระวังอย่าให้อะไรมาทับสายไฟ

สรุปเรื่องอายุการใช้งานสายไฟในบ้าน

และนี่คือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสายไฟภายในบ้าน อายุการใช้งานของสายไฟภายในบ้านนั้นจะสามารถใช้งานได้นานหรือไม่นั้นต้องดูปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบด้วย เมื่อมีสายไฟชำรุดเสียหายต้องจัดการแก้ไขโดยด่วน หากไม่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกสายไฟ สามารถติดต่อ  ตัวแทนจำหน่ายสายไฟยาซากิ เพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับสายไฟภายในบ้านที่จะปลอดภัยตามมาตรฐานเพื่อบ้านของคุณ