ไฟตกบ่อยเกิดจากอะไร รวมสาเหตุและวิธีแก้ไข
เราเชื่อว่าแทบจะทุกบ้าน เคยเจอกับปัญหาไฟตกอย่างแน่นอน ยิ่งโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนจะยิ่งเป็นช่วงที่ไฟตกบ่อยมากเป็นพิเศษ ซึ่งอย่างที่ทุกคนคงจะทราบกันดีแล้วว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดปัญหาไฟตก ย่อมส่งผลให้เกิดความลำบากในการใช้ไฟฟ้า แต่นอกจากความลำบากในการใช้ไฟฟ้าแล้ว ทุกครั้งที่เกิดไฟตกจะเป็นการสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และอาจลามไปถึงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เพราะฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหาไฟตก บทความนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขกันว่าสามารถทำได้อย่างไร
อาการไฟตกเป็นอย่างไร
อาการของไฟตก สามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากในขณะที่กำลังใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณจะสังเกตเห็นได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิดใช้งานอยู่นั้น จะมีการหยุดการทำงานในระยะสั้น ๆ เช่น หลอดไฟมีอาการกะพริบ, พัดลมหมุนได้ช้าลง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
ไฟตกบ่อยเกิดจากอะไร
เมื่อแรงดันไฟฟ้าตามครัวเรือนลดลงไปอยู่ที่ 220 V จากเดิมที่แรงดันไฟฟ้าครัวเรือนอยู่ที่ 230 V จะส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าในบ้านทำงานผิดปกติหรือเกิดไฟตกบ่อย และจะส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้แรงดันไฟฟ้าลดลง เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยจะมีดังนี้
1. สายไฟชำรุด
หากสายไฟบ้าน มีการใช้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟย่อมละลายหรือขาด รวมถึงฉนวนหุ้มเปลือกขาดได้ ซึ่งจะทำให้สายไฟเกิดการสัมผัสกันของตัวนำไฟฟ้า รวมถึงการใช้งานที่ไม่ระวัง เช่น มีการใช้แบบงอสายหลายครั้ง ก็อาจทำให้ทองแดงในสายย่อมงอตามและชำรุดได้ เมื่อใช้สายไฟชำรุดก็จะส่งผลให้เกิดไฟตกบ่อย
2. สภาพอากาศ มีลมพายุแรง ฝนฟ้าคะนอง
ภัยธรรมชาติ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟตก ซึ่งภัยธรรมชาติที่แตกต่างกัน ก็อาจส่งผลกระทบในด้านที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หากฝนตกหนัก อาจทำให้ค่าความชื้นในอากาศเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ระบบไฟฟ้าไม่มีประสิทธิภาพ แต่หากลมพายุแรง ก็อาจทำให้ต้นไม้หรือใบไม้ตกลงมาพาดสายไฟ และเป็นสาเหตุที่ทำให้แรงดันไฟฟ้าตกได้เช่นเดียวกัน
3. ไฟฟ้ากระชาก
หากภายในครัวเรือน มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 220 V แบบเฉียบพลัน อาจส่งผลให้เกิด ไฟกระชาก และเกิดไฟตกตามมาได้ ซึ่งการใช้ไฟเกินที่ทำให้เกิดไฟกระชากที่พบได้บ่อย คือบ้านเรือนที่มักมีการใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากในเวลาที่พร้อม ๆ กันนั่นเอง
4. ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกัน
ในช่วงเวลาที่มีการเปิดใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูง ไม่ว่าจะเป็นไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น หรือเตารีด ในช่วงเวลาที่พร้อม ๆ กัน จะส่งผลให้เกิดแรงดันไฟฟ้าจากต้นทางส่งกระแสไฟฟ้าภายในบ้านไม่เต็มกำลัง สามารถทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าตก หรือเกิดไฟกระชากภายในบ้านได้
5. บ้านอยู่ห่างจากสถานีจ่ายไฟ
และสาเหตุสุดท้ายที่มักทำให้เกิดไฟตกบ่อย คือการที่บ้านหรือที่พักอาศัย อยู่ห่างจากสถานีจ่ายไฟมากจนเกินไป เพราะโดยปกติทั่วไปแล้ว ที่พักอาศัยควรจะอยู่ห่างจากสถานีจ่ายไฟ ในระยะทางที่มีความเหมาะสม เพื่อให้แรงดันส่งกระแสไฟฟ้ามีความปลอดภัยตลอดการใช้งาน หากอยู่ไกลจนเกินไปจะทำให้ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ส่งกระแสไฟฟ้าไม่ทัน และทำให้เกิดไฟตกได้
ไฟตกบ่อยอันตรายไหม
หากแรงดันไฟฟ้าตกลง นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าจะพังง่ายขึ้นแล้ว บางครั้งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดไฟช็อตหรือเกิดเหตุเพลิงไหม้ตามมาได้ เพราะฉะนั้นหากบ้านของคุณมักที่จะเจอปัญหาไฟฟ้าตกบ่อย ๆ แนะนำว่าไม่ควรประมาท หรือปล่อยปละละเลย ควรรีบหาสาเหตุและทำการแก้ไขโดยด่วน
วิธีแก้ปัญหาไฟตกบ่อย
- ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานอยู่เสมอ
- คอยหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ว่ามีส่วนไหนชำรุดหรือไม่
- เลือกใช้เฉพาะแค่อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีฝนตกหนัก ฟ้าผ่า หรือมีพายุ
- เลือกที่พักอาศัยที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งจ่ายไฟมากจนเกินไป
- ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เครื่องตัดไฟรั่ว เป็นต้น
- ติดตั้งเครื่องสำรองไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย
สรุปบทความ
ทั้งหมดนี้ คือสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟตกบ่อย เมื่อคุณทราบสาเหตุแล้วจะทำให้สามารถป้องกันไฟฟ้าตกได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ควรให้ความสำคัญอย่างมากกับสายไฟฟ้าที่ใช้ หากคุณอยากปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดจากสายไฟฟ้า ไม่อยากเสี่ยงกับการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟช็อต หรือไฟไหม้ แนะนำเลือกใช้สายไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน จากบริษัทแสงสหอุปกรณ์ จำกัด ผู้เป็นตัวแทนจำหน่ายสายไฟไทยยามาซากิ ไม่ว่าจะเป็นสายไฟฟ้า, สายฉนวน หรือสายเคเบิล ที่บริษัทแสงสหอุปกรณ์ จำกัด เรามีให้คุณเลือกแบบครบวงจร หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-546-5559 หรือ Line: @Saengsaha_TH ตลอด 24 ชั่วโมง
